วิธีการทำ Company Profile แบบมืออาชีพ
สำรวจตนเอง > ชัดเจนเรื่องเนื้อหา > ออกแบบให้โดดเด่นเพื่อสร้างการจดจำ > ขยายผล
ในปัจจุบันที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูง หลายๆ บริษัทก็อยากจะมีสื่อหรือเอกสารที่ใช้ในการประกอบการขาย สามารถแนะนำธุรกิจของตัวเองได้ไม่ว่าจะเป็น Company Profile / Catalog / Brochure / Sale kit แต่ยังไม่รู้ว่าจะเตรียมตัวอย่างไรดี เรามีขั้นตอนและวิธีการทำ Company Profile แบบมืออาชีพสามารถที่จะตอบข้อสงสัยได้ว่า “จะทำ Company Profile จะเริ่มต้นอย่างไร?” “จะทำอย่างไรให้ได้แบบ Company Profile ที่สวยถูกใจ?” และ “Company Profile ที่ทำเสร็จออกมาแล้วจะสามารถนำไปปรับใช้อะไรได้อีกบ้าง?” ด้วย วิธีการทำ Company Profile ดังต่อไปนี้
1. สำรวจธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายของตนเอง
หัวใจสำคัญของการเริ่มทำ Company Profile อย่างแรกที่ต้องทำคือ สำรวจธุรกิจของตัวเองและสำรวจกลุ่มเป้าหมาย ต้องตอบคำถามของธุรกิจของคุณเองก่อน ว่าจุดเด่นหรือข้อแตกต่างเหนือคู่แข่งของเราคืออะไร กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเราเป็นใคร และต้องการนำเสนอศักยภาพแบบไหน อาทิ นำเสนอแบรนด์องค์กร หรือนำเสนอขายสินค้าและบริการที่มีเข้าไปเสริมสร้างความโดดเด่นและแตกต่างให้ Company Profile ของเราประสบความสำเร็จ
2. ชัดเจนเรื่องของเนื้อหา
เมื่อเรารู้จักกลุ่มเป้าหมายและจุดเด่นของตัวเองแล้ว ต่อมาก็จะเป็นส่วนของเนื้อหาที่จะใส่ลงไปในงาน Company Profile การเขียนนำเสนอที่ดีต้องชัดเจน กระชับ และเข้าใจง่าย วิธีการคือแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วน 1.เนื้อหาที่เป็นมาตรฐานไม่มีการเปลี่ยนแปลง (Static) อาทิ ประวัติบริษัท โครงสร้างการบริหารของบริษัท รวมถึงสินค้าและบริการหลัก 2.เนื้อหาที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ (Dynamic) อาทิ รูปแบบการบริการแบบ Customize หรือสินค้าที่จำหน่ายตามวาระโอกาสต่างๆ ฯลฯ และเพื่อเปิดช่องทางการสื่อสารของคุณสู่กลุ่มเป้าหมายให้เป็นวงกว้างมากขึ้น อาจจะมีเพิ่มเติมในเรื่องของภาษา เช่น ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น ฯลฯ
3. ออกแบบให้โดดเด่นเพื่อสร้างเอกลักษณ์และการจดจำ
เมื่อเนื้อหาของเราชัดเจนเพียงพอแล้ว ขั้นตอนต่อมาเราก็ต้องพิจารณา “การออกแบบ” ซึ่งควรเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการใช้สี โลโก้ หรือสไตล์ของรูปภาพและกราฟฟิกที่นำมาใช้ เพื่อชูจุดเด่นของแบรนด์และช่วยให้กลุ่มเป้าหมายจดจำเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ นอกจากนั้นการออกแบบสื่อให้ไปในทิศทางเดียวกันยังช่วยส่งเสริมให้เกิดการรับรู้ (Brand Awareness) ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังง่ายต่อการจดจำ (Brand Recognition) ของกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้นอีกด้วย
ตัวอย่างการออกแบบ Company Profile ให้โดดเด่นเพื่อสร้างเอกลักษณ์และการจดจำ
4. พัฒนา Company Profile ไปยังรูปแบบสื่ออื่นๆ
ในปัจจุบันการสื่อสารมีหลากหลายช่องทาง ซึ่งช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถเข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น การจัดทำ Company Profile จึงควรเป็นมากกว่ากระดาษที่ให้ข้อมูล ควรบูรณาการช่องทางการสื่อสารประเภทอื่นๆ เข้าไปด้วย เพื่อเสริมรายละเอียดเพิ่มเติมในการทำ Company profile
Website
website เป็นสื่อ online ที่สามารถบอกข้อมูลรายละเอียดสินค้าและบริการของเราได้ครบถ้วนที่สุด ทำให้กลุ่มเป้าหมายสามารถดูข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับบริษัท เช่น ประวัติบริษัท ข้อมูลการติดต่อ ซึ่งในปัจจุบันสามารถแสดงผลได้ทั้งใน คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต Company Profile สามารถนำมาต่อยอดพัฒนารายละเอียดเนื้อหาเป็น website ได้ไม่ยาก ถ้ามีการวางแผนการออกแบบที่ดี
Online Presentation
Online presentation เป็นสื่อที่นิยมใช้ในการนำเสนอสินค้าและบริการในปัจจุบันเริ่ม เนื่องด้วยสถานะการ Covid-19 และต้นทุนการเดินทางที่สูงขึ้น รวมไปจนถึงการเข้ามาของระบบ Online Meeting ไม่ว่าจะเป็น Zoom / Google Meeting / MS Teams ทำให้การนำเสนองานด้วย Company Profile แบบเล่มเริ่มจะต้องปรับตัว ปัจจุบัน บริษัทไจแอนท์พอยท์จำกัด ได้นำเอา company profile เป็นเดิมๆมาปรับปรุงใส่รูปแบบ Multimedia เช่น video clip / เสียง / และ interactive โดยทำลายข้อจำกัดเดิมๆของงานสิ่งพิมพ์ให้การนำเสนอสินค้าและบริการมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น
Video Presentation
Content Video กำลังมาแรง และในเกือบทุก Platform การสื่อสารล้วนสามารถแทรก link video ลงไป
company profile ของหลายๆธุรกิจได้นำมาดัดแปลงเป็น corporate video เพื่อให้ง่ายต่อการนำเสนอ และการ Share ส่งต่อไปในช่องทางการสื่อสารหลากหลายรูปแบบที่บริษัทมี
วิธีการทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคือขั้นตอนและวิธีการทำ Company Profile ที่บริษัท ไจแอนท์ พอยท์ จำกัด สามารถบริการให้แก่ลูกค้า พร้อมกับพัฒนาต่อยอดออกไปตามแต่วัตถุประสงค์ของธุรกิจและกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้กลายเป็นคู่มือประกอบการขายที่มีประสิทธิภาพ
ไม่ว่า Company Profile ที่คุณต้องการจะเป็นแบบไหน เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการออกแบบจัดทำครบวงจร